จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

เตรียมพร้อมรับน้ำท่วม



วันนี้ 29 - 10 - 2011  matkasem.blogspot.com/ เอาภาพน้ำท่วม หาดใหญ่ปีที่แล้ว มาให้ดูกัน และ วันที่    2 - 11 - 2011 ก็จะครบ 1 ปีแล้ว ที่น้ำท่วม หาดใหญ่
matkasem.blogspot.com/ เอาสิ่งที่มี สาระมาฝากกัน เวลาก่อนน้ำจะท่วม ควรจะรับมือกันอย่างไร



1.    พยายามเก็บสิ่งของเครื่องใช้ที่อาจเสียหายจากน้ำท่วม บรรจุใส่ลังบรรจุสัมภาระที่ทำจากพลาสติกหรือบรรจุใส่ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ (ถุงดำ) บรรจุลงลังกระดาษ แล้วนำขึ้นไปเก็บไว้บนที่สูง ๆ ที่สามารถทำได้


2.    ย้ายปลั๊กไฟและสวิทซ์ไฟฟ้าที่อยู่ในระดับต่ำ โดยมากจะอยู่ที่ระดับ 30 เซนติเมตรจากพื้นอาคารให้สูงขึ้นไป อยู่ใน ระดับ1..20 เซนติเมตร แยกเบรกเกอร์ออกเป็นชั้น ๆ ไป เพื่อความสะดวก ในการตัดกระแสไฟฟ้าเมื่อน้ำท่วม



   3.     ย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ให้อยู่ในระดับที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัด วงจร  



4.    สำรวจช่องเปิดที่คาดว่าบรรดาสัตว์ที่มีอันตรายต่างๆอาจจะสามารถเล็ดลอดเข้ามาทำอันตรายได้และทำการปิด ช่องเปิดนั้น เพื่อระวังป้องกันอันตราย



5.    สำรวจรอยแตกร้าว รอยแยกบริเวณรอบตัวบ้าน หากพบจุดที่คาดว่าน้ำอาจซึมเข้ามาได้ ให้ใช้วัสดุยาแนวหรือซิลิโคลนฉีดอัดบริเวณรอยแตกร้าวภายนอก เพื่อลดการซึมเข้ามาของน้ำ



6.    ให้จัดเตรียมกระสอบทรายทำเป็นกำแพงกันน้ำ บริเวณทางเข้าออกของบ้าน และประตูห้องน้ำเนื่องจากห้องน้ำจะมี ระบบท่อน้ำทิ้งซึ่งน้ำจากภายนอกจะขึ้นมาจากระบบท่อเหล่านั้น



         7.    หากไม่สามารถหากระสอบทรายได้ สามารถใช้วิธีก่อผนังฉาบปูนทำผิวขัดมันแทนการใช้กระสอบทรายก็ได้



       8.    จัดเตรียมภาชนะสำหรับเก็บของเสียจากการขับถ่าย ไม่ควรขับถ่ายลงระบบส้วมเดิม เนื่องจากจะเป็นการเพิ่ม  สิ่งสรกปกลงไปในน้ำ



9.    จัดเตรียมภาชนะบรรจุน้ำสะอาดไว้สำหรับบริโภค ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ หรือจัดหาเครื่องกรองน้ำมาติดตั้ง เพราะเมื่อน้ำท่วมเราไม่ควรใช้น้ำประปามาบริโภค เนื่องจากอาจจะมีสิ่งสรกปกปะปนมากับน้ำปะปา



10.  จัดเตรียมเวชภัณฑ์ และอาหารสำเร็จรูปที่สามารถรจัดเตรียมได้ง่าย เช่น อาหารกระป๋อง เพราะเมื่อเกิดน้ำท่วม อาจจำเป็นต้องมีการตัดกระแสไฟ และไม่สามารถหุงหาอาหารได้ถ้าหากไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเมื่อเกิดน้ำท่วมแล้วจะทำอย่างไร เมื่อเกิดน้ำท่วมแล้วเราจะแก้ไขได้ลำบากเพราะระบบอุปโภคและสาธารณูประโภค จะใช้งานไม่ได้สิ่งของที่จำเป็นต้องการดำรงชีวิตจะมีราคาสูงขึ้น จนถึงขาดตลาด ดังนั้นการเตรียมตัวป้องกันจึงเป็นการแก้ไขที่ดีที่สุด













                                                           matkasem18310@gmail.com
                                      
                                                    Seadrill  Tender 11  Gulf of Thailand

                                                               Hatyai  Nai  Sol: 53
                                
                                                                   Storeman T-11







ห้องนอน

    
  การนอนหลับคือ การพักผ่อนที่ดีที่สุด การนอนหลับเพียง 5-6 ชั่วโมง ในห้องที่เงียบสงบ อุณหภูมิพอเหมาะและอากาศ ถ่ายเทดี ก็นับว่า เพียงพอแล้ว สำหรับคนเราในวันหนึ่งๆ ห้องนอน จึงเป็นห้อง ที่ต้อการ


ความสงบ มากกว่าส่วนใด ในบ้าน ให้ความเป็นส่วนตัว ความสะดวกสบาย แก่เจ้าของ อีกทั้งแสดง รสนิยม
 และ บุคลิก ของเจ้าของห้อง นอกจากใช้เป็น ห้องพักผ่อนนอนหลับ ยังอาจใช้เป็น ห้องแต่งตัว และ ห้องทำงานส่วนตัว ได้อีกด้วย การนอน ถือเป็น กิจกรรม หรือ กิจวัตรประจำวัน ที่จำเป็น ต้องมีต้องปฏิบัติ เพื่อการเริ่มต้นชีวิต ในวันใหม่ ที่สดชื่นสุดๆ 


      แต่ที่สำคัญอย่างยิ่งของการ"นอน" ก็คือ สุขภาพที่ดีของร่ายกายเมื่อมี การทำงานไม่ว่า จะด้วยการใช้ แรงกาย หรือสมอง และสติปัญญา หรือแม้แรงใจ แรงกระตุ้น จาก ภานใน ทำให้คนเรา มีความสุขในการทำงาน ปฏิบัตฺงาน ในหน้าที่ของ แต่ละคน ให้ได้ผลสมบูรณ์เต็มร้อย คือการ  "นอน"พักผ่อนให้เพียงพอ (สำหรับน้องๆในวัยที่กำลังเล่าเรียน กันอยู่)


       วันนี้ matkasem.blogspot.com/  จึงเอารูปห้องนอน สวยๆ มาฝาก น้องๆ และ เพื่อนๆให้ดูกัน เพื่อจะได้จัดห้องนอน ของเรา ให้น่านอน เพื่อให้หลับ ฝันดี กันทุกๆคน  ตื่นเช้าขึ้นมา ร่างกายสดชื่นไปเรียน หนังสือ และไป ทำงานกัน อย่างมีความสุข




 



 

 



 





 



 

 



 


สังคม online ของวัยกำลังเรียน

 ตอนนี้ที่่ ผมกำลังเขียนบทความเรื่องนี้เป็นเวลา 06.45am ชึ่่งผมนอนไม่หลับ จริงๆเวลาตื่นนอนของผมคือ10.30am. ทุกๆวัน คือผมทำงานเกี่ยวกับ Drilling Oil & Gas. อยู่ในอ่าวไทย ทำงาน 12 ชม. จากเวลา
24.00 ถึง 12.00 เป็นเวลา 12 ชม. เมื่อคืนผมเข้านอน 02.00am. เลยใช้เวลาที่เหลือ ที่ผมตื่นขึ้นมา ก่อนที่จะถึงเวลาทำงานของวันนี้  มาเขียนบทความฉบับนี้ให้น้องๆที่กำลังเล่าเรียนกันอยู่ให้ได้คิดกันสักหน่อย.
  เวลาทุกคนมี 24 ชม.เท่ากันหมด ใน 24 ชม.แล้วแต่ใครจะใช้เวลาให้มีประโยชน์ให้มากที่สุด แต่สังคม ตอนนี้ม้นไม่เป็นอย่างที่น้องๆคิดเอาเวลากับการ  online  ที่ไรสาระกับพวก โปรแกรมบางตัว ( FB) และอื่นๆ เราลองคิดดูว่า เวลาเราตื่นนอน เราได้ทำอะไรมั่ง เคยช่วยเหลือ พ่อ แม่ ทำงานบ้านไม่ อ่านหนังสือเรียนไม่ ตั้งใจเรียนไม่ นอนดึกไม่และ เสาร์ อาทิตย์ เคยอยู่บ้านไม่ นี้คือความเป็นจริงของเด็ก ปัจจุบันนี้ เอาเวลามานั้ง online กันเป็นเวลาหลายๆ ชม.นี้คือผลเสียที่เด็กพวกนี้ ไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำกันอยู่เป็นการฆ่าเวลาที่เสียเปล่า พวกเรารู้ไม่การ online พวกนี้มันทำให้การเล่าเรียนเราต่ำลง เพราะเราไม่ได้อ่านหนังสือเรียน บางที่อาจจะนอนดึกตลอด เวลานอนก็ไม่เพียงพอ ไปเรียนก็ไปนั้งง่วงที่โรงเรียน  เวลาพ่อและแม่บอกให้ทำอะไร น้องๆก็ไม่ชอบใจ เพราะว่ากำลัง IN กับการ online น้องๆรู้ไม่เวลานี้มันไม่ใช้ เวลามาบอกกันว่าพวกเราเป็นพวกทันสมัยพวกยุคใหม่ แสดงว่าพวกเรายังไม่ถึงสมัย เพราะเรายังตามสมัยกันอยู่  เราต้องทำตัวให้ล่ำสมัย ไม่ใช้ต้องตามสมัย และใช้ เทคโนโลยี ให้เป็นประโยชน์กับชีวิตประจำวันของเรา ไม่ใช้ทำตัวให้เป็นทาสของเทคโนโลยี
       สุดท้ายนี้จะบอกน้องๆในวัยเรียนว่าเอาเวลา ไปช่วย พ่อแม่ ทำงานบ้านดีกว่า เอาเวลาอ่านหนังสือเรียนดีกว่า จบออกมาได้ทำงานดีมีเงินเดือนมากๆ จะซื่้อบ้านหรือรถราคาแพงๆและอะไรก็ได้ที่เราต้องการอยู่ตอนนี้ ไม่ใช้เอาเวลาที่มีค่าไป online อยู่ตลอดเวลา
บริหาร เวลา  24 ชม.ให้มีประโยชน์ให้มากที่สุดเพื่อความสำเร็จในวันข้างหน้าของพวกเรา.
.